วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

4. การบริหารจัดงานบริการของไปรษณีย์ไทย






1 ) ยกระดับความสามารถในการสร้างผลกำไรและใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด โดยมุ่งเน้นการรักษาฐานรายได้จากบริการไปรษณีย์ดั้งเดิมและเพิ่มมูลค่ารายได้จากฐานบริการใหม่ที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งวางแนวทางการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ รวมถึงการนำสินทรัพย์ที่ ปณท มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

2 ) ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าด้วยการขยายขอบเขตบริการและแสวงหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการขยายฐานการให้บริการไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต โดยนำศักยภาพด้านการให้บริการที่ ปณท มีอยู่มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งสร้างกระบวนการวิจัยและพัฒนาเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่เหมาะสมกับกิจการไปรษณีย์และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในอนาคต 

3 ) ปรับปรุงและพัฒนาระบบงานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของ ปณท โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาระบบปฏิบัติการที่มีอยู่ให้สามารถรองรับการให้บริการรูปแบบใหม่ในอนาคต พร้อมทั้งสามารถยกระดับคุณภาพของการให้บริการเดิมที่มีอยู่ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เหมาะสม รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินกิจการ

4 ) พัฒนาบุคลากรให้มีทักษะและทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงานและสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นให้เกิดผลตอบสนองต่อการยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรมในการทำงานและการพัฒนาบริการใหม่เพื่อตอบสนองต่อการดำเนินกิจการในอนาคตต่อไป







3. ความสะดวกสบายในการใช้บริการ "ไปรษณีย์ไทย"






เครื่อข่ายไปรษณีย์

สำหรับเครือข่ายไปรษณีย์แห่งชาติบางครั้งเรียกว่า "ที่ทำการไปรษณีย์" ดูจากจดหมาย . สำหรับความหมายอื่นดูได้จากที่ทำการไปรษณีย์ (disambiguation) .
ที่ทำการไปรษณีย์เป็นบริการลูกค้าสิ่งอำนวยความสะดวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของชาติระบบไปรษณีย์ . [ที่ทำการไปรษณีย์ให้ส่งบริการที่เกี่ยวข้องเช่นการยอมรับของตัวอักษรและห่อ ; ข้อกำหนดของกล่องที่ทำการไปรษณีย์ ; และการขายแสตมป์ , บรรจุภัณฑ์และเครื่องเขียน . นอกจากนี้ยังมีที่ทำการไปรษณีย์หลายให้บริการเพิ่มเติม: การให้และยอมรับรูปแบบของรัฐบาล (เช่นหนังสือเดินทางการใช้งาน) บริการการประมวลผลรัฐบาลและค่าธรรมเนียม (เช่นถนนภาษี ) และบริการด้านการธนาคาร (เช่นบัญชีออมทรัพย์และธนาณัติ ) หัวหน้าผู้บริหารของที่ทำการไปรษณีย์เป็นไปรษณีย์ .
ก่อนที่จะมีการถือกำเนิดของไปรษณีย์และรหัสไปรษณีย์ระบบไปรษณีย์รายการเส้นทางที่จะไปยังที่ทำการไปรษณีย์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการจัดส่งใบเสร็จรับเงินหรือ ในศตวรรษที่ 19 อเมริกานี้มักจะนำชุมชนเล็ก ๆ ที่จะถูกเปลี่ยนชื่อหลังจากที่ทำการไปรษณีย์ของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กรมไปรษณีย์หยุดที่จะอนุญาตให้ชื่อสถานีที่ซ้ำกันภายในรัฐ .
คำว่า "ที่ทำการไปรษณีย์" หรือ "ที่ทำการไปรษณีย์" ได้รับในการใช้ตั้งแต่ยุค 1650, ไม่นานหลังจากที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริการอีเมลเอกชนในอังกฤษใน 1635 ในช่วงต้นสมัย ​​อังกฤษขับขี่โพสต์ - บริการจัดส่งสินค้าที่ติดตั้งอยู่ - ถูกวางไว้ ("โพสต์" ) ทุกไม่กี่ชั่วโมงไปตามถนนโพสต์ที่ " บ้านโพสต์ "หรือ" บ้านโพสต์ "ระหว่างเมืองใหญ่ ๆ (" เมืองโพสต์ ") เหล่านี้คอกม้าหรือโรงแรมขนาดเล็กที่ได้รับอนุญาตการติดต่อที่สำคัญในการเดินทางโดยไม่ชักช้า ในช่วงต้นเดือนอเมริกาที่ทำการไปรษณีย์เป็นที่รู้จักกันว่า " สถานี " คำนี้และ "บ้านโพสต์" ลดลงจากการใช้เป็นม้าและโค้ชบริการถูกแทนที่ด้วยรถไฟ , อากาศยานและรถยนต์ .
วันนี้ "ที่ทำการไปรษณีย์" มักจะหมายถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทางไปรษณีย์ให้บริการลูกค้า คำว่า " ไปรษณีย์ "บางครั้งใช้สำหรับสำนักงานใหญ่ของชาติบริการไปรษณีย์ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ให้บริการลูกค้าภายในอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกทางไปรษณีย์ใช้เฉพาะสำหรับจดหมายการประมวลผลเป็นที่รู้จักกันในฐานะแทนการเรียงลำดับสำนักงานหรือสำนักงานจัดส่งซึ่งอาจมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่รู้จักกันว่าเป็น "การเรียงลำดับ" หรือ "ห้องโถงไปรษณีย์" สิ่งอำนวยความสะดวกในการประมวลผลแบบบูรณาการรวมอีเมลที่มีสถานี ยังมีการส่งสินค้าที่เร็ว และมีที่ทำการไปรษณีย์มากขึ้น

โครงการระบบเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ
     เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ณ เคาน์เตอร์ รับฝากโดย การติดตั้งและพัฒนาระบบ โปรแกรมเคาน์เตอร์ ไปรษณีย์อัตโนมัติ ทั่วประเทศ ประมาณ1,200 ที่ทำการ เปิดให้บริการในรูปแบบ One Stop Service ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ทุกประเภทในทุกช่องบริการ

แผนงานปรับปรุงระบบนำจ่ายไปรษณีย์ระยะที่ 2
     เพื่อพัฒนาระบบนำจ่ายไปรษณีย์และยกระดับคุณภาพบริการไปรษณีย์ รวมทั้งขจัดปัญหาไปรษณีย์ ตกค้าง โดยการปรับปรุงระบบการนำจ่ายไปรษณีย์ของที่ทำการไปรษณีย์ต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 550 ที่ทำการ

แผนพัฒนาระบบไปรษณีย์ออนไลน์
   ปรับเปลี่ยนระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ประมาณ 1,200 ที่ทำการ กับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จากระบบออฟไลน์ผ่านคู่สาย โทรศัพท์เป็นระบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายความเร็วสูง

แผนพัฒนาระบบติดตามและตรวจสอบสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ (Track & Trace)
     เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและตรวจสอบสิ่งของต่าง ๆ ที่จัดส่งทางไปรษณีย์ ให้ลูกค้าสามารถ ติดตามสถานะได้ว่าอยู่สถานที่ใด และคาดหมายกำหนดวันส่งถึงมือผู้รับได้ และสามารถติดตามและตรวจสอบผ่าน ทางระบบอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา

แผนส่งเสริมการให้บริการรับชำระเงิน PAY AT POST
     เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับเป็นตัวแทนรับชำระเงินให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานธุรกิจต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

แผนจัดตั้งเฟรนไชส์ไปรษณีย์
      เพื่อให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีสาขาในการให้บริการเพิ่มขึ้น อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ โดยให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้บริการไปรษณีย์ในรูปแบบธุรกิจเฟรสไชส์ ไปรษณีย์ ซึ่งจะออกแบบให้มี รูปแบบทันสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะ 

แผนพัฒนาการให้บริการรับส่งของพร้อมเก็บเงินที่บ้าน
     เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการในการส่งสิ่งของ / สินค้าไปให้แก่ผู้รับปลายทาง ซึ่งที่ทำการไปรษณีย์จะนำสิ่งของ / สินค้า ไปส่งพร้อมเก็บเงินถึงบ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปรับสิ่งของและจ่ายเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงเป็นการเพิ่มศักยภาพในการจำหน่ายสินค้าชุมชุน 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และสินค้าอื่นๆ ของผู้ประกอบการ ให้มีช่องทางในการจัดจำหน่ายได้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้นในการส่งสิ่งของ / สินค้าและเก็บเงินปลายทาง 

แผนดำเนินงานบริการรับส่งและกระจายสิ่งของ / สินค้า (Logistics)
     สนองนโยบายของรัฐบาลที่ให้กิจการไปรษณีย์ขยายขอบเขตบริการไปสู่ภาคธุรกิจในการ รับส่งและกระจายสิ่งของ / สินค้า สนับสนุนโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ของรัฐบาล และสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการฝากส่งสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ หรือน้ำหนักมากกว่าที่มีการให้บริการอยู่ในปัจจุบัน 

แผนการจัดจำหน่ายสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์
     เพื่อ สนองนโยบายรัฐบาลในโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ที่ทำการไปรษณีย์จะเป็นจุดจำหน่ายสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ คือ การวางจำหน่ายสินค้าหากมีพื้นที่พอเพียง หรือจำหน่ายโดยมีแคตตาล็อคสินค้าให้ลูกค้าเลือก ทั้งสินค้าตามโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งลูกค้าสามารถใช้ที่ทำการไปรษณีย์เป็นช่องทางในการสั่งสินค้าและจัดส่ง สินค้าถึงผู้รับได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 

แผนพัฒนาการให้บริการธนาณัติ WESTERN UNION ระบบออนไลน์
     เพื่อ ให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สามารถโอนเงินระหว่างประเทศได้ทั่วโลกด้วยระบบออนไลน์ โดยเชื่อมระบบการรับ - จ่ายเงินธนาณัติกับ WESTERN UNION







2. ความน่าเขื่อถือของตรา "ไปรษณีย์ไทย"


* ด้านการให้บริการ ให้บริการไปรษณีย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง ที่มีคุณภาพดี รวดเร็ว ตรงเวลา ใน    อัตราค่าบริการเหมาะสม

* ด้านการตลาด มุ่งเน้นการตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทุกระดับ 

* ด้านการเงินและการลงทุน ดำเนินการให้พึ่งตนเองได้ในด้านการเงินและสามารถลงทุนขยายงานต่อ      ไปในอนาคต 

* ด้านบุคลากร บริหารบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้มีสวัสดิการด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม 

* ด้านการบริหารและการจัดการ พัฒนาการบริหารจัดการให้เอื้อประโยชน์ต่อการดำเนินงานในเชิงธุรกิจ














1. คุณภาพของบริการไปรษณีย์ไทย



         ไปรษณีย์ไทยแจงกระบวนการและระบบงานไปรษณีย์ เน้นมาตรการรักษาคุณภาพบริการระดับมาตรฐานสากล ย้ำ! ไม่ปฏิเสธการรับฝากส่งหากหุ้มห่อถูกวิธี มุ่งเดินหน้าพัฒนาบุคลากร พร้อมเป็นเครือข่ายแห่งความสุขของคนไทยต่อไป
นอกจากนี้ ในการส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ที่มีขนาดใหญ่ ปณท ได้ดำเนินการเพื่อให้สามารถส่งสิ่งของถึงผู้รับได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐานของ ปณท โดยมีการดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น แนะนำการหุ้มห่อสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ และกำชับการปฏิบัติงานไปรษณีย์ที่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งของทุกชิ้นของลูกค้า เป็นต้น 
ในเบื้องต้นจึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการหุ้มห่อสิ่งของที่จะฝากส่งให้ถูกต้องและแข็งแรง และหากมีไปรษณียภัณฑ์ที่แตกหัก เสียหาย พบเป็นความผิดพลาดของไปรษณีย์ไทยจริง ตรวจสอบแล้วผิดจริง ไปรษณีย์ไทยก็มีมาตรการชดใช้ตามบริการในราคาปกติ และบริการรับประกันที่ผู้ฝากส่งเลือกใช้ และหากตรวจสอบพบเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ ก็มีบทลงโทษตั้งแต่การว่ากล่าว ตักเตือน ทัณฑ์บน ตัดเงินเดือน จนถึงขั้นไล่ออก
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ไปรษณีย์ พ.ศ.2477 มีข้อกำหนดให้ปฏิเสธการรับฝากเฉพาะสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ที่หุ้มห่อหรือเข้าห่อซองไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ หรือสิ่งของที่มีถ้อยคำหยาบคาย ขู่เข็ญ กรรโชก แต่ในส่วนของป้ายการปฏิเสธการรับฝาก หากผู้ฝากส่งเขียนถ้อยคำหยาบคายลงบนกล่องไปรษณีย์ จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการติดป้ายปฏิเสธการรับฝากในลักษณะนี้ และได้กำชับไม่ให้มีป้ายเช่นนี้ด้วย
รวมทั้ง การพัฒนาระบบงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างบริการที่ตรงใจลูกค้า มุ่งเน้นการเป็นจุดให้บริการครบวงจร รวมไปถึงการสร้าง “เครือข่ายไปรษณีย์ไทย ให้เป็นเครือข่ายความสุขของคนไทย” โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของทีมงาน ความรู้ ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ความรักและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในองค์กรที่อยู่คู่สังคมไทยมายาวนาน เพื่อให้ไปรษณีย์ไทยเป็นแบรนด์ในดวงใจของคนไทย เป็นเครือข่ายความสุขต่อไป
       
       นอกจากนี้ หากลูกค้ามีปัญหาคับข้องใจ หรือได้รับการบริการที่ไม่ดี ก็มีหลายช่องทางให้ร้องเรียน เช่น THP Contact 1545 เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th เป็นต้น และยังมีขั้นตอนการสอบสวน ตรวจสอบ ที่รวดเร็วและเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ
       
       อย่างไรก็ตาม มาตรฐานคุณภาพบริการของ ปณท. จะยังคงเดินหน้าต่อไปโดยการให้บริการประชาชนด้วยหัวใจไปรษณีย์ และมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ พร้อมการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้องค์กรมีศักยภาพมากขึ้น มีความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการสนองตอบความต้องการของธุรกิจและผู้ใช้บริการ ด้วยคุณภาพที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อเป็นเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง 


Thaipost

ประวัติของไปรษณีย์ไทย
                     ในปี พ.ศ. 2423 เจ้าหมื่นเสมอใจราชได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งการไปรษณีย์ขึ้นในประเทศสยาม พระองค์จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงศ์ฯ  ทรงเตรียมการจัดตั้งการไปรษณีย์ตามแบบอย่างในต่างประเทศ และทรงแต่งตั้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ฯ ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรก และได้เปิดรับฝากส่งหนังสือ(จดหมาย)ในเขตพระนครและธนบุรีเป็นการทดลองเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ที่ทำการแห่งแรกตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนปากคลองโอ่งอ่าง เรียกว่า "ไปรษณียาคาร"
          ในปี พ.ศ. 2429 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับโอนกิจการโทรศัพท์จากกระทรวงกลาโหมมาดำเนินการ และขยายบริการ เปิดให้ประชาชนได้เช่าใช้เครื่องโทรศัพท์ภายในกรุงเทพและธนบุรี เป็นครั้งแรก
          ใน ปี พ.ศ. 2441 ได้ทรงให้รวมกรมโทรเลขซึ่งได้ก่อตั้งมาก่อนหน้านี้เข้ากับกรมไปรษณีย์ ใช้ชื่อใหม่ว่า "กรมไปรษณีย์โทรเลข" ดำเนินกิจการไปรษณีย์และโทรเลขและได้ย้ายที่ทำการมาอยู่ที่ถนนเจริญกรุง กรมไปรษณีย์โทรเลขในขณะนั้น ดำเนินกิจการหลัก ๆ อยู่ 3 กิจการ คือ กิจการไปรษณีย์ กิจการโทรเลข กิจการโทรศัพท์
          ในปี พ.ศ. 2472 ได้รับโอนคลังออมสินจากกรมพระคลังมหาสมบัติ มาดำเนินการรับฝากเงินจากประชาชนเมื่อ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2472
          ในปี พ.ศ. 2489 ได้แยกกองคลังออมสินออกจากกรมไปรษณีย์โทรเลขมาจัดตั้งเป็นธนาคารออมสิน มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และเปิดดำเนินการรับฝากเงินจากประชาชนตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2490 เป็นต้นมา
          ในปี พ.ศ. 2497 ได้โอนกิจการโทรศัพท์กรุงเทพฯและธนบุรีให้องค์การโทรศัพท์แห่งประทศไทย
          ในปี พ.ศ. 2520 ได้มีการจัดตั้ง การสื่อสารแห่งประทศไทย โดย พรบ.การสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2519 เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม โดยรับมอบกิจการด้านปฏิบัติการและกิจการให้บริการไปรษณีย์จากกรมไปรษณีย์โทรเลขมาดำเนินการ เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2520 และได้ปรับปรุงพัฒนาบริการมาตลอด
          ในปี พ.ศ. 2546 ได้แปรสภาพเป็น บริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2546 ใช้ชื่อใหม่ว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่เหมือนเดิม และได้เปลี่ยนมาสังกัดกระทรวงเทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสารและได้พัฒนาปรับปรุงบริการโดยนำระบบเทคโนโลยี่สารสนเทศมาใช้ในการให้บริการและยังได้พัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ในปี พ.ศ. 2423 เจ้าหมื่นเสมอใจราชได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งการไปรษณีย์ขึ้นในประเทศสยาม พระองค์จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษี สว่างวงศ์ฯ  ทรงเตรียมการจัดตั้งการไปรษณีย์ตามแบบอย่างในต่างประเทศ และทรงแต่งตั้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ฯ ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรก และได้เปิดรับฝากส่งหนังสือ(จดหมาย)ในเขตพระนครและธนบุรีเป็นการทดลองเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ที่ทำการแห่งแรกตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนปากคลองโอ่งอ่าง เรียกว่า "ไปรษณียาคาร"
          ในปี พ.ศ. 2429 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับโอนกิจการโทรศัพท์จากกระทรวงกลาโหมมาดำเนินการ และขยายบริการ เปิดให้ประชาชนได้เช่าใช้เครื่องโทรศัพท์ภายในกรุงเทพและธนบุรี เป็นครั้งแรก
          ใน ปี พ.ศ. 2441 ได้ทรงให้รวมกรมโทรเลขซึ่งได้ก่อตั้งมาก่อนหน้านี้เข้ากับกรมไปรษณีย์ ใช้ชื่อใหม่ว่า "กรมไปรษณีย์โทรเลข" ดำเนินกิจการไปรษณีย์และโทรเลขและได้ย้ายที่ทำการมาอยู่ที่ถนนเจริญกรุง กรมไปรษณีย์โทรเลขในขณะนั้น ดำเนินกิจการหลัก ๆ อยู่ 3 กิจการ คือ กิจการไปรษณีย์ กิจการโทรเลข กิจการโทรศัพท์
          ในปี พ.ศ. 2472 ได้รับโอนคลังออมสินจากกรมพระคลังมหาสมบัติ มาดำเนินการรับฝากเงินจากประชาชนเมื่อ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2472
          ในปี พ.ศ. 2489 ได้แยกกองคลังออมสินออกจากกรมไปรษณีย์โทรเลขมาจัดตั้งเป็นธนาคารออมสิน มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ และเปิดดำเนินการรับฝากเงินจากประชาชนตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2490 เป็นต้นมา
          ในปี พ.ศ. 2497 ได้โอนกิจการโทรศัพท์กรุงเทพฯและธนบุรีให้องค์การโทรศัพท์แห่งประทศไทย
          ในปี พ.ศ. 2520 ได้มีการจัดตั้ง การสื่อสารแห่งประทศไทย โดย พรบ.การสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2519 เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม โดยรับมอบกิจการด้านปฏิบัติการและกิจการให้บริการไปรษณีย์จากกรมไปรษณีย์โทรเลขมาดำเนินการ เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2520 และได้ปรับปรุงพัฒนาบริการมาตลอด
          ในปี พ.ศ. 2546 ได้แปรสภาพเป็น บริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2546 ใช้ชื่อใหม่ว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่เหมือนเดิม และได้เปลี่ยนมาสังกัดกระทรวงเทคโนโลยี่สารสนเทศและการสื่อสารและได้พัฒนาปรับปรุงบริการโดยนำระบบเทคโนโลยี่สารสนเทศมาใช้ในการให้บริการและยังได้พัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง


Link to Blogger MKT 04


S&P

YOYOTA

HOTPOT